Honda  Jazz เป็นรถที่มีรูปทรงเล็กกะทัดรัด ทันสมัย ทำให้ Jazz โฉม นี้มียอดขายเป็นจำนวนมาก ส่วนความน่าใช้และน่าสนใจของรถคันนี้ก็มีหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าตาน่ารักน่าใช้ นำมาตกแต่งก็สวยน่ามอง ของแต่งเยอะ การดูแลรักษาง่าย ห้องโดยสารที่ค่อนข้างกว้างขวางสะดวกสบาย เครื่องยนต์แบบ i-DSI หัวเทียนคู่ หรือ TWIN PLUG ใน 1 สูบจะมีหัวเทียน 2 หัว พร้อมเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติ CVT ในแบบอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง ที่มีอัตราทดมาให้ใช้งานได้มากถึง 7 สปีด


Honda  Jazz  รูปร่างภายนอกแบบ 5 ประตู สารพัดประโยชน์ หน้าตายังถือว่า สวย และทันสมัยใช้ได้ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าที่ลาดต่ำ หน้าสั้นกะระยะง่าย โคมไฟหน้าใหญ่รูปทรงโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าที่เข้ารูปกับฝากระโปรงและกันชนหน้า ส่วนกระจกมองข้างก็ติดตั้งบนก้านยกออกจากประตูเช่นเดียวกับ Honda City  ด้านท้ายแบบ Lift Back ตัดสั้น เป็นประตูบานที่ 5 เด่นด้วยโคมไฟท้ายขนาดใหญ่แบบเกาะมุม กันชนท้ายขนาดใหญ่ดูแข็งแรงบึกบึน

ภายในห้องโดยสารของ Honda  Jazz ได้รับการออกแบบในสไตล์อเนกประสงค์ คอนโซลหน้าดีไซน์แปลกใหม่ ปุ่มควบคุมต่าง ๆ มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้ง่าย เน้นดีไซน์สีในห้องโดยสารแบบทูโทน เน้นความหรูหราและทันสมัย เพิ่มความเป็น Sport ด้วยมาตรวัดทรงกลม 3 มาตร พวงมาลัย 3 ก้านแบบ Steer Matic โดยมีสวิตช์ควบคุมตำแหน่งเกียร์ +/- เหมือนในรถราคาแพงมาให้ด้วย
ความโดดเด่นภายในห้องโดยสารของ Honda  Jazz  สะดวกสก็คือ เบาะนั่งคนขับปรับสูง/ต่ำได้ เพื่อให้เข้ากับขนาดตัวผู้ขับขี่ เบาะหลังแบบ Ultra Seat ซึ่งนอกจากจะสามารถพับแยกแบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ได้แล้ว ยังสามารถยกเก็บเบาะนั่งแบบราบหรือพับขึ้น เมื่อต้องการวางสัมภาระทรงสูง จึงมีเนื้อที่ใช้สอยมากขึ้น เรียกว่าเป็นรถเล็กที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเลยทีเดียว
Honda  Jazz  มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ตระกูล i-Series เป็นตัวเดียวกับที่วางใน City เป็นเครื่องเบนซิน บล็อก 4 สูบเรียง SOHC 8 วาล์ว ติดตั้งหัวเทียนมากถึง 8 หัว (2 หัวเทียน/ 1 สูบ) มีความจุรวม 1497 ซี.ซี. โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ใช้เทคโนโลยีแบบ i-DSI หรือ Intelligent Dual And Sequential Ignition ซึ่งมุ่งเน้นความประหยัดและลดมลพิษ แม้จะให้พละกำลังเพียง 88 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แต่เมื่อมาดูที่แรงบิดสูงสุดที่ทำออกมาได้ จะเห็นว่ามากถึง 131 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 2,700 รอบ/นาทีเท่านั้น
จึงทำให้ Jazz คันนี้ขับได้สนุกทั้งในเมืองและเดินทางไกล ผนวกด้วยระบบส่งกำลังแบบ CVT แบบ 7 สปีด จึงสามารถถ่ายทอดกำลังได้อย่างต่อเนื่องในทุกระดับความเร็ว สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 160 กม./ชม. และสามารถใช้ได้ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 ให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในระดับ 10.6-11.8 กม./ลิตร สำหรับการวิ่งใช้งานในเมืองครับ ส่วนวิ่งทางไกลในระดับความเร็ว 80-110 กม./ชม. ก็บริโภคราว 12.8-14 กม./ลิตร (โดยประมาณตามสภาพรถ)
Honda  Jazz  ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท หลังแบบกึ่งอิสระ ทาง Honda เลือกใช้แบบ Torsion Beam ช่วงล่างของ Jazz ปรับแต่งมาในแนวออก Sport นิด ๆ ให้ความกระชับดีในระดับหนึ่ง จนบางครั้งอาจจะแข็งไปสำหรับบางคน จะออกอาการร่อน ๆ ก็ต่อเมื่อใช้ความเร็วเกิน 130 กม./ชม.ขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วระดับค่อนข้างสูงของรถขนาดนี้
ส่วนระบบเบรกใน  Honda  Jazz ใช้ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน หลังแบบดรัม พร้อมติดตั้งระบบ  ABS และ EBD เพิ่มประสิทธิภาพระบบเบรกของ Honda Jazz ได้อย่างมั่นใจในยามที่ต้องหยุดรถ
Honda Jazz โฉมนี้ถือว่ามีความน่าใช้ตรงที่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะในเมือง ด้วยรูปทรงที่กะทัดรัด  จึงสามารถลัดเลาะหรือหาที่จอดได้ไม่ยาก อีกทั้งเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดในรอบต่ำ จึงขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว ตามด้วยความประหยัดระดับเฉียด ๆ 12 กม./ลิตร  Honda Jazz จึงน่าใช้อย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ต้องทำงานในเมืองชั้นในที่การจราจรติดขัด
ส่วนเรื่องการดูแลรักษา Honda  Jazz  ก็ไม่มีอะไรมาก  เพราะศูนย์ Honda มีอยู่ทั่วไป  แถมสนนราคาค่าอะไหล่หลาย ๆ รายการก็ไม่จัดว่าแพงจนเกินไป  ที่เห็นจะแพงหน่อย และต้องดูเป็นพิเศษถ้าเป็นรถมือสอง ก็คือ เกียร์ระบบ CVT เพราะจะมีอายุการใช้งานราว ๆ 120,000-150,000 กม. ระบบเกียร์ในหลาย ๆ คันก็อาจจะเริ่มส่อเค้ามีปัญหา

แต่ใน City บางคัน (ซึ่งใช้เกียร์ชุดเดียวกันกับ Jazz) ที่เคยพบปัญหาที่เกิดจาก CVT ก็จะเริ่มที่ 180,000-200,000 นิด ๆ ก็มีครับ (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของรถด้วยว่าใช้มายังไง) แต่จะเกิดอาการเสียที่ช่วงเวลาไหน ค่าซ่อมก็แพงระดับหลายหมื่น ราคาค่าซ่อมเกียร์กันแบบเบา ๆ ก็เริ่มที่ 2 หมื่นกลาง ๆ ไล่ไปตามความเสียหายชำรุด  หรืออาจแพงกว่านี้ นับเป็นข้อด่อยของรถที่ใช้ระบบเกียร์ CVT

Honda  Jazz  เป็น สัดส่วนเล็กรถเล็ก ก็จริง แต่ห้องโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างคล่องตัว แถมยังมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ โดยรวมก็ถือเป็นรถที่ยังน่าสนใจน่าใช้งานอยู่ แต่อาจจะต้องตรวจเช็คเรื่องระบบเกียร์ CVT เป็นพิเศษหน่อย เนื่องจากค่าดูแลซ่อมแซมสูง แค่นี้ก็สามารถคบกับ Honda Jazz 1.5 i-DSI ได้อย่างสบายใจแล้วครับ

ขอบคุณข้อมูลภาพ sanook.com

Related Articels